Wednesday, May 28, 2014

ตำนานรักของทหารอังกฤษกับแม่พระสมุนไพร (1/2)

       จากประTonicสบการณ์ที่อยู่ในบาร์ เครื่องดื่มที่คนนิยม(เกือบ)ที่สุด ยังไงก็หนีไม่พ้น Gin and Tonic (จินแอนด์โทนิค) ไม่ว่าจะเป็นบาร์แบบไหน คุณก็สามารถสั่ง Gin and Tonic ได้ทั้งนั้น หลายๆคนสั่ง Gin and Tonic เวลาที่ไม่รู้จะดื่มอะไร เปรียบดังพนักงานบริษัทสั่งกระเพราไก่ไข่ดาวที่ร้านตามสั่งตอนพักกลางวัน เครื่องดื่มนี้เป็นเครื่องดื่มที่ทำง่ายมากและดื่มง่ายมากเช่นกัน

Gin and Tinic
Glass: highball (แก้วไฮบอล)
วิธีทำ
เติมน้ำแข็งให้เต็มแก้ว
จิน 1.5 ออนซ์ 
เติมน้ำโทนิคให้เต็มแก้ว
แต่งด้วยมะนาวเขียว1ซีก


รูปจาก ginandtonicjuly.com

      
          เพราความง่ายและความธรรมดา อาจทำให้คุณมองข้ามว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีความสำคัญกับมนุษยชาติอย่างไร ลองมองลึกเข้าไปในแก้วใบนั้น มองผ่านสิ่งที่เป็นรูปธรรมของเหลว(จินและน้ำโทนิค) มองผ่านของแข็ง(น้ำแข็ง) มองผ่านอากาศ(ฟองอากาศของโทนิค) เหมือนกับเวลาออกเดทที่สอง คุณรู้จักคู่เดทของพอสมควร คุณพยายามค้นหาตัวตนของคู่เดทคุณมากขึ้นโดยการมองตา มองผ่านคอนแทคเลนซ์ ผ่านเรตินา ลึกเข้าไปถึงหัวใจ ลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ และเรากำลังจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ เขา(Gin) และ หล่อน(Tonic) มากขึ้น

          ทำไมผมถึงเปรียบเทียบ Gin ว่าเป็น"เขา" เพราะว่าในช่วงสงครามแปดสิบปีทหารอังกฤษตั้งชื่อเล่นให้ Gin ว่า "น้ำกล้าหาญของชาวดัตช์ (Dutch Courage)" แต่คำว่า Gin มาจากภาษาดัตช์เรียกว่า Genever(Dutch Gin)  ซึ่งแปลว่าเมล็ดจูนิเพอร์(Juniper) อีกประโยชน์ของ Genever คือการใช้เป็นยา ช่วยระงับอาการปวดท้อง

          กษัตย์ William III ขึ้นครองบัลลังก์ ในปี 1689 ได้ปลุกระดมให้ชาวอังกฤษทำ Gin เอง ภายในช่วงต้นศตวรรษที่18 เมืองลอนดอนกลายเป็นเมืองหลวงของ Gin และช่วง 1820s บริษัท Tanqueray ติดค้น Gin สไตล์ใหม่, 'London Gin' ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุด ผมจะโพสเรื่องจินสไสตล์ต่างๆในอนาคต

       

       
                   


                       โปรดติดตามตอนจบของตำนานรักทหารอังกฤษกับแม่พระสมุนไพรได้ในโพสหน้านะครับ

       

          

No comments:

Post a Comment